ตาม ลำดับทรงพลังหรือลำดับการเจ็บป่วย เราได้รู้แล้วว่า ความเจ็บป่วย ไม่ได้อยู่ๆ จะเกิดขึ้นเอง แต่มีลำดับการเกิดของมัน คือ
- วิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจเจกของเรา (Life style, Environment factor)
- จนบ่อยครั้งทำให้เซลล์ของเราทำงานมากกว่าที่ควรจะเป็น (Cell Overwhelming)
- เซลล์และส่วนรอบข้างจำเป็นต้องบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดดุลยภาพของเซลล์ (Cell waste product and pH imbalances)
- ฟื้นฟูและพัฒนา ด้วยการสลายของเก่าเพื่อโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่ (Repair or Inflammation)
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราจะเรียก 4 ขั้นตอนนี้ โดยรวมว่า ความเครียด (Stress)
หากเราได้รับการดูแลที่เหมาะสมแล้ว จะทำให้เกิดการยกระดับของเซลล์และร่างกาย
แต่ในทางตรงข้ามหากไม่สามารถได้รับการดูแลที่เหมาะสมแล้ว เซลล์จะไม่สามารถพัฒนาและฟื้นฟูได้
- เซลล์จึงเริ่มเสื่อม เมื่อเซลล์หลายๆเซลล์เสื่อมจนทำให้ตำแหน่งหรืออวัยวะนั้นเสื่อมลง (Cell and organ function impairment)
- จนก่อให้เกิดอาการ หรือสามารถตรวจวัดได้อย่างชัดเจน จึงสามารถระบุชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ (Degenerative diseases)
- และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จนส่งผลกระทบต่อส่วนหรือระบบอื่นต่อๆไป (Body overwhelmed by disease)
ซึ่งลำดับที่เกิดขึ้น มันก็จะมีเส้นทางที่เราสามารถตรวจสอบได้ ดังนี้
- ประเมินวิถีชีวิต, สิ่งแวดล้อมของเราเอง หรือให้ผู้เชี่ยวชาญ, แพทย์ เป็นผู้ช่วยประเมิน ด้วยการพูดคุย และอาจใช้การตรวจพิเศษบางชนิดเพื่อช่วยประเมิน เช่น ตรวจชนิดอาหารที่อาจก่อนให้เกิดปัญหา, ตรวจร่องรอยผลกระทบต่อสารพันธุกรรม ฯลฯ
- ใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อประเมินการทำงานของเซลล์เบื้องต้น เช่น Electro Interstitial Scan (EIS) เป็นต้น
- ดูดุลยภาพของเซลล์ ด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น ดูเซลล์เม็ดเลือดด้วยเทคนิค Dark field (โดยทั่วไปเรียกว่า Live Blood Analysis), การตรวจค่าอนุมูลอิสระ, Homocysteine, Apo B/A ฯลฯ
- การตรวจค่าการอักเสบ เช่น HsCRP, Ferritin, ESR เป็นต้น
ซึ่งการตรวจทั้งหมดนี้เป็นเพียงการตรวจหรือวิธีเบื้องต้น เพื่อสามารถประเมินเส้นทางที่เกิดขึ้นใน 4 ลำดับแรกเท่านั้น *ไม่สามารถนำมาวินิจฉัยโรคได้* แต่เพื่อเป็นแนวทางให้เราวางแผนการดูแลตัวเองตามวิถีของแต่ละบุคคล
- เมื่อเซลล์หรืออวัยวะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป เราจะสามารถตรวจได้ด้วยการถ่ายภาพด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น X-ray, CT, MRI, Ultrasound หรือการประเมินการทำงานด้วยการดูระดับ Biomarker, ฮอร์โมนต่างๆ, Ankle brachial index (ABI), Exercise stress test (EST) และอื่นๆอีกมาก เพื่อประเมินความเสื่อมที่เกิดขึ้น
- เมื่อความผิดปกติมากหรือชัดเจนเพียงพอ ก็จะเกิดการวินิจฉัยโรค
- สุดท้ายจะมีการตรวจต่างๆอีกมากมาย เพื่อดูผลกระทบในวงกว้างของการเจ็บป่วย และความเสี่ยงในการเสียชีวิต เช่น การฉีดสีเพื่อประเมินหลอดเลือดตามที่ต่างๆ ฯลฯ
จะเห็นว่า การตรวจเส้นทางนั้นมีมากมายหลายวิธี โดยความจำเป็นในการตรวจเส้นทางเหล่านี้ นั้นขึ้นอยู่กับระดับความพึงพอใจและการตระหนักต่อสุขภาพของแต่ละบุคคล ร่วมกับผู้ดูแลรักษา โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้รับการดูแลรักษา ซึ่งเป็นปัจเจกบุคคล
หมายเหตุ บทความนี้เป็นมุมมอง เพื่อสร้างความเข้าใจ ป้องกันความเข้าใจผิดหรือการกล่าวอ้างเกินจริงของการตรวจต่างๆ และไม่ได้มีจุดประสงค์เปรียบเทียบว่าการตรวจใดดีกว่า เพราะทุกการตรวจล้วนมีจุดประสงค์เฉพาะตัว
ค้นหาทางรอดของการเจ็บป่วยอย่างทรงพลัง ต่อได้ที่ ทางรอดการเจ็บป่วย – บริษัท ดอกเตอร์ทรงพลัง จำกัด
หรือทบทวนถึงลำดับการเจ็บป่วยมากขึ้นได้ที่ ลำดับการเจ็บป่วย – บริษัท ดอกเตอร์ทรงพลัง จำกัด
หรือติดตามบทความของเรา https://www.drsongpalang.com/category/blog/
Facebook Page: https://www.facebook.com/dr.songpalang
สุดท้ายนี้ ทีมงานดอกเตอร์ทรงพลังขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านทรงพลังอย่างยั่งยืน